เอเดลไวส์ ดอกไม้แทนรักแท้จากสวิตเซอร์แลนด์

“ดอกเอเดลไวส์” (Edelweiss) เป็นดอกไม้ที่เวลาเราเที่ยวในออสเตรีย หรือแม้แต่สวิส จะเห็นสัญลักษณ์นี้เต็มไปหมด และในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ ชา หรือแม้แต่โลโกร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ วันนี้ หริ่นจะมาเล่าให้ฟังว่า ดอกเอเดลไวส์ มีความพิเศษอย่างไรนะคะ

ดอกเอเดลไวส์มีถิ่นกำเนิดในยุโรป บริเวณเทือกเขาแอลป์ ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล1,500-3000 เมตร สมญานาม “ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์” เพราะจะตามหน้าผา จึงได้ฉายาว่า “ดอกไม้เมฆ” ด้วย หายาก เพราะอยู่ตามเขาสูง และชอบขึ้นจากหน้าผาชันอีกต่างหาก ปีหนึ่ง ๆ บานแค่ 3 ครั้ง ผู้ชายยุโรป จะเด็ดไปให้หญิงสาวที่รัก เพื่อบอกรักแท้ที่สูงส่ง



ดอกเอเดลไวส์ ถือเป็น พืชที่ได้รับความคุ้มครองในหลายๆ ประเทศในยุโรป อยู่วงศ์เดียวกับดอกทานตะวัน และเอกลักษณ์ของดอก คือ ตัวดอกมีขนปกคลุมทั้งดอกและใบ เพื่อป้องกันการระเหยน้ำ ซึ่งทำให้อยู่รอดในสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นจัดได้ และแม้ในภูเขาสูง ตัวดอกไม่มีพิษ ใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจและช่องท้องได้

ดอกเอเดลไวส์ถือเป็นดอกไม้ประจำชาติสวิสเซอร์แลนด์ เป็นไม้ดอกขนาดเล็กแห่งเทือกเขาแอลป์ จะบานเพียงปีละ 3 ครั้ง โดยถ้าเราเด็ดดอกออกจากต้นแล้ว ดอกจะคงรูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง เลยได้ชื่อว่าเป็นความหมายของ “รักแท้” ที่ไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ คำว่า เอเดลไวส์ ยังมาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า “สูงศักด์” (edel) และ “ขาว” (weiss) อีกด้วย



อ่านต่อตำนานของดอกเอเดลไวส์

https://variety.teenee.com/foodforbrain/79367.html