หริ่นแนะนำการเดินทางประเทศไทยไปยังศรีลังกา

หริ่นแนะนำการเดินทางประเทศไทยไปยังศรีลังกา

หริ่นแนะนำการเดินทางประเทศไทยไปยังศรีลังกา ซึ่งมีหลายสายการบินที่ให้บริการในเส้นทางนี้ โดยเที่ยวบินส่วนใหญ่จะเดินทางระหว่าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK) ในกรุงเทพฯ และ ท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานัยเก (CMB) ในโคลัมโบ หริ่นขอแนะนำ 2 สายการบินนี้ค่ะ

1. ศรีลังกาแอร์ไลน์ (SriLankan Airlines)


สายการบินประจำชาติของศรีลังกา ให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และโคลัมโบหลายเที่ยวบินต่อวัน
ศรีลังกาแอร์ไลน์มีบริการชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ พร้อมอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ รวมถึงระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน
แนะนำเที่ยวบิน มีบินทุกวัน
UL 403 - BKK-CMB 09.00 -11.00
UL 402 - CMB-BKK 01.15 - 06.20

2. การบินไทย (Thai Airways International)


สายการบินประจำชาติของประเทศไทยที่ให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และโคลัมโบ
การบินไทยมีชื่อเสียงในด้านการบริการที่ยอดเยี่ยมและสะดวกสบาย มีบริการชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจ และชั้นหนึ่ง
แนะนำเที่ยวบิน มีบินทุกวัน
TG 307 BKK-CMB 21.55 - 00.01
TG 308 CMB - BKK 01.00 - 06.10

แนะนำที่ท่องเที่ยวในศรีลังกา



1. พระมหาเจดีย์เชตวัน พระมหาเจดีย์เชตวันมีความสูงเดิมถึง 122 เมตร และถึงแม้ว่าปัจจุบันความสูงจะลดลงเหลือประมาณ 70 เมตร แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในเจดีย์ที่สูงที่สุดในโลกในยุคของมัน
ฐานของเจดีย์มีเส้นรอบวงประมาณ 233 เมตร ทำให้เป็นเจดีย์ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับเจดีย์อื่น ๆ ทั่วโลก

เชื่อกันว่าภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธจากทั่วโลกให้ความเคารพ ในสมัยโบราณ เจดีย์นี้เป็นส่วนหนึ่งของวัดเชตวัน (Jetavana Monastery) ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอนุราธปุระ และมีพระสงฆ์หลายพันรูปจำพรรษาที่นี่



2. เมืองอนุราธปุระ (Anuradhapura) อนุราธปุระ เป็นเมืองหลวงแรกของศรีลังกาและเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดในช่วงหลายศตวรรษ ประมาณ 4-5 ศตวรรษก่อนคริสตกาล เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และเต็มไปด้วยโบราณสถาน เช่น พระมหาเจดีย์เชตวัน (Jetavanaramaya) ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ พระเจดีย์รุวันเวลิ (Ruwanwelisaya) และต้นศรีมหาโพธิ์ (Sri Maha Bodhi) ซึ่งเป็นต้นโพธิ์ที่มีความสำคัญในศาสนาพุทธ

อนุราธปุระเป็นเมืองที่สะท้อนถึงความเจริญทางวัฒนธรรมและศาสนาของศรีลังกาในอดีต เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และโบราณคดี

 



3.สิกิริยา (Sigiriya) หรือ พระราชวังลอยฟ้า (Lion Rock)
สิกิริยา หรือที่เรียกว่า พระราชวังลอยฟ้า ตั้งอยู่บนยอดภูเขาหินรูปทรงสิงห์โตในภาคกลางของศรีลังกา สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของพระราชวังโบราณและป้อมปราการบนยอดเขาสูง 200 เมตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้า กัสยปะ (King Kashyapa) ในคริสต์ศตวรรษที่ 5 โดยมีลักษณะเด่นคือบันไดหินที่นำขึ้นไปสู่ยอดภูเขาผ่านอุ้งเท้าสิงห์ที่สกัดจากหินขนาดยักษ์

จิตรกรรมฝาผนัง หนึ่งในความโดดเด่นของสิกิริยาคือภาพวาดเฟรสโกของหญิงสาวที่เรียกว่า "สิกิริยาดามเซล" (Sigiriya Damsels) ซึ่งวาดอยู่บนหน้าผาของภูเขา ภาพวาดเหล่านี้ยังคงความสวยงามและมีสีสันสดใส เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของศิลปะยุคโบราณในศรีลังกา

บันไดสู่ยอดเขา การขึ้นเขาสิกิริยาถือเป็นการเดินทางที่ท้าทายและตื่นเต้น บันไดที่สร้างขึ้นจากหินพานักท่องเที่ยวผ่านกำแพงกระจก (Mirror Wall) และอุ้งเท้าสิงห์ที่แกะสลักจากหิน ทิวทัศน์จากยอดเขาจะเผยให้เห็นวิว 360 องศาของป่าเขียวชอุ่มและทะเลสาบโดยรอบ

สวนและระบบชลประทานโบราณ ด้านล่างของภูเขามีสวนประดับและระบบชลประทานที่ได้รับการวางแผนอย่างซับซ้อน ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของวิศวกรรมในยุคโบราณ สวนนี้แบ่งออกเป็นหลายส่วน รวมถึงสระน้ำและสวนหินที่มีความซับซ้อนทางวิศวกรรม

การเดินทางขึ้นสิกิริยา ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของนักท่องเที่ยว ระหว่างทางจะได้ชมทั้งจิตรกรรมและโบราณสถานต่างๆ จนกระทั่งถึงยอดเขาที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังลอยฟ้า นักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติที่อยู่รอบๆ และรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่นี้



4. สักการะพระเขี้ยวแก้ว - วัดพระเขี้ยวแก้ว (Sri Dalada Maligawa), เมืองแคนดี้
วัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในศรีลังกา เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานของพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้า พระธาตุเขี้ยวแก้วนี้ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของศาสนาพุทธในศรีลังกาและเป็นสมบัติล้ำค่าที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาและการปกครองในอดีต การสักการะพระเขี้ยวแก้วถือเป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนศรีลังกา นักท่องเที่ยวจะได้เข้าร่วมพิธีสวดมนต์ ซึ่งจัดขึ้นวันละสามครั้ง และสัมผัสบรรยากาศของการนมัสการที่เงียบสงบภายในวัด

ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและลวดลายศิลปะที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของศิลปะและวัฒนธรรมในยุคของราชวงศ์แคนดี้ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวัตถุทางศาสนาและประวัติความเป็นมาของวัดและพระเขี้ยวแก้ว