ทัวร์ส่วนตัวอีสานใต้ (ศรีสะเกษ - อุบล) กราบหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน เที่ยวอุบล-ศรีษะเกษ ครบไฮไลต์

ทัวร์ส่วนตัวอีสานใต้ (ศรีสะเกษ - อุบล) กราบหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน เที่ยวอุบล-ศรีษะเกษ ครบไฮไลต์




1  กราบพระที่วัดป่าใหญ่ - วัดพระธาตุหนองบัว - วัดหนองป่าพง

รับท่านที่สนามบิน นานาชาติอุบลราชธานี ตามเวลากำหนด หรือตามจุดหมาย ที่ท่านต้องการ จากนั้นพาท่านไปรับประทานอาหารกลางวัน สามชัยไก่ย่าง / หรือตามที่ท่านต้องการ

วัดพระธาตุหนองบัว ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและน่าสนใจ คือ “พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ” พระธาตุประจำปีเกิดปีมะเส็ง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรูปปั้นพญานาคราช 2 องค์ ขนาดใหญ่งดงาม ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าพระเจดีย์พระธาตุองค์สีขาว ตัดกับลวดลายสีทองอย่างงดงามวิจิตรบรรจง ภายนอกเป็นภาพนูนต่ำที่องค์พระธาตุด้านนอก บอกเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับพระเจ้าสิบชาติ ด้านล่างรอบพระธาตุเป็นพุทธสาวกในบวรพุทธศาสนาส่วนฐานรองรับองค์พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ด้วยพญานาคครุฑและยักษ์



วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่)เป็นวัดเก่าแก่และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอบุลฯ เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฎฐาน ตั้งขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับการสร้างเมืองอุบลฯ ในพ.ศ.2322 ต่อมาในสมัยเจ้าเมืองคนที่ 2 คือ พระพรหมวรราชสุริยะวงศ์ (ท้าวทิศพรหม) ได้ยกฐานะเป็นวัดและถือเป็นวัดประจำเมืองแห่งที่ 2 ให้ชื่อว่าวัดป่าหลวงมณีโชติ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหนองตะพังหรือหนองสะพัง ตามชื่อหนองน้ำที่อยู่ใกล้เคียงดังปรากฏหลักฐานศิลาจารึกที่ตั้งอยู่ด้านหลังพระเจ้าใหญ่อินแปง



วัดหนองป่าพง นมัสสการหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดที่หลวงปู่ชา ก่อสร้างขึ้นเพื่อปฏิบัติภาวนาอบรมจิตใจ เพื่อการดับทุกข์โดยแท้จริง ตามหลักคำสอนขององค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยหลวงปู่ได้เน้น ให้มีข้อวัตร และความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย อยู่ในป่า และใกล้ชิดธรรมชาติ ตลอดชีวิตขององค์หลวงปู่ชา เน้นการปฏิบัติให้ดูเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ลูกศิษย์ พระ เณร และ ฆราวาส

จากนั้นออกเดินทางไปยังจังหวัดศรีสะเกษ พักที่โรงแรมจังหวัดศรีษะเกษ


2 ออกเดินทาง กราบพระที่วัดพระโต - หลวงปู่สรวง(เทวดาเดินดิน)วัดไพรพัฒนา-วัดป่ามงคงศรีรัตนาราม-วัดสระกำแพงใหญ่



เริ่มต้นออกเดินทาง ไปแวะกราบพระที วัดมหาพุทธาราม(วัดพระโต)พระอารามหลวง เป็นวัดสำคัญที่เก่าแก่ของจังหวัดศรีสะเกษโดยเมื่อปี พ.ศ.2322 พระยาวิเศษภักดี(เจ้าเมืองศรีสะเกษคนที่ 2)ได้ย้ายเมืองจากเดิมที่บ้านโนนสามขาสระกำแพงมายังเมืองศรีสะเกษ ซึ่งในขณะนั้นมีผู้พบหลวงพ่อโตถูกทิ้งร้างอยู่ใจกลางป่าแดงจึงได้มีการจัดสร้างวัดขึ้นโดยใช้ชื่อว่าวัดพระโตหรือวัดป่าแดง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดมหาพุทธาราม หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองศรีสะเกษและเป็นที่เคารพสักการะของชาวศรีสะเกษและผู้มาเยือน



แวะกราบสักการะหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา เดิมทีเป็นที่พำนักของหลวงปู่สรวง นักบุญแห่งดินแดนอีสานใต้ มีเมตตาบารมีช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนเป็นที่รักและศรัทธาของผู้คน รวมไปถึงลูกศิษย์ลูกหาทั่วไป จนเป็นที่เรียกขานกันว่า “เทวดา เดินดิน” สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เปื่อยไม่เนา จนลูกศิษย์ได้นำไปบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาและนักท่อนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพรและลอดใต้โลงแก้วเพื่อความเป็นสิริมงคล



วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม ตั้งอยู่ที่ บ้านสิม หมู่ 8 ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยการบริจาคที่ดิน ของนายหวย เพ็งพันธ์ และนางสมัยเพ็งพันธ์ ซึ่งเป็นโยมบิดา-มารดา ของพระครูวิจิตรวินัยคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม เพื่อเป็นสถานที่อบรมปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน ต่อมาด้วยความเพียรของเจ้าอาวาส และแรงศรัทธาจากญาติโยม จึงจัดตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฏหมาย นามว่าวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2543

 

วัดสระกำแพงใหญ่ ตั้งอยู่ใน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นปราสาทขอม โบราณสถานที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัด  ภายในวัดมีสรีระของหลวงปู่เครื่อง สุภัทโท อดีตเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ ซึ่งเป็นเกจิชื่อดังของจังหวัดศรีสะเกษ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อยู่หลายแห่ง ทั้งอุโบสถพญานาคที่ประดิษฐานพระเมี๊ยะมุนีจำลอง รูปหล่อหลวงปู่เครื่ององค์ใหญ่ ถ้ำเงินถ้ำทอง

 

ปราสาทสระกำแพงน้อย อยู่ภายในบริเวณวัดเทพปราสาท สระกำแพงน้อย บ้านกลาง ตำบลขะยูง ประกอบด้วยปรางค์และวิหารก่อด้วยศิลาแลง ด้านหน้าปรางค์มีสระน้ำใหญ่ ทั้งปรางค์ วิหารและสระน้ำ ล้วนล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง เคยมีทับหลังประตูสลักเป็นพระวรุณเทพเจ้าแห่งฝนประทับบนแท่นมีหงส์แบก 3 ตัว อยู่เหนือเศียรเกียรติมุข เป็นศิลปะแบบบาปวน มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 สันนิษฐานว่าปราสาทหินแห่งนี้เดิมเป็นศาสนสถานมาก่อน และต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 18 รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อาจมีการบูรณะหรือสร้างเพิ่มเติมขึ้นใหม่ สังเกตได้จากมีสถาปัตยกรรมแบบบายนอยู่ด้วย สิ่งก่อสร้างดังกล่าวเรียกกันในสมัยนั้นว่า “อโรคยาศาล” หมายถึง สถานพยาบาล หรือสุขศาลาประจำชุมชน

เดินทางมายังอุบลราชธานี พักที่โรงแรม ในจังหวัดอุบลราชธานี

3 ออกเดินทาง ไปแก่งสะพือ - โขงเจียม - เขื่อนสิรินธร - วัดภูพร้าว

แวะทานอาหารเช้า ที่ ปากหม้อร้านโรบอท หรือ ร้านสามชัยกาแฟ หรือ ก๋วยจั๊บโอชารส

แล้วเดินทางไปอ.พิบูลมังสาหารไหว้พระที่วัดสระแก้ว เที่ยวแก่งสะพือ วัดสระแก้ว ไปกราบไหว้ “พระพือ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอพิบูลมังสาหาร ตามตำนานเล่าว่า ทั้งคนและสัตว์ต่างกลัวสระน้ำแห่งนี้มาก เพราะเชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากบางครั้งจะพบเห็นแสงคล้ายลูกแก้วลอยขึ้นจากสระน้ำพุ่งไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร แล้วตกลงบริเวณภูเขาที่ปัจจุบันเรียกว่าภูเขาแก้ว บางครั้งก็มีแสงลูกแก้วลอยจากภูเขาแก้วมาตกลงบริเวณสระน้ำ จึงเรียกว่า สระแก้ว เมื่อสร้างวัดขึ้นที่ภูเขาจึงตั้งชื่อว่าวัดภูเขาแก้ว และ เมื่อสร้างวัดขึ้นบริเวณใกล้กับสระน้ำดังกล่าว จึงตั้งชื่อว่า วัดสระแก้ว


และเดินทางไปยังแก่งสะพือ แก่งที่เต็มไปด้วยหินขนาดใหญ่ขนาดน้อยสลับกัน มีลักษณะเขื่อนขวางกันแม่น้ำมูล เมื่อกระแสน้ำไหลผ่านกระทบหินเกิดเป็นฟองขาวมีเสียงน้ำตกดังตลาดเวลา ปัจจุบันเป็นแหล่งขายของฝากมากมาย แวะชิมซาลาเปาเจ้าดั้งเดิมที่ริมสะพานพิบูล

หมู่บ้านทำฆ้องบ้านทรายมูล เป็นหมู่บ้านที่ทำฆ้องขายเป็นอาชีพ โดยนำแผ่นทองเหลือง มาประดิษฐ์เป็นฆ้องตูม (จูม) เดียว และมีความทนทานให้งานได้นานกว่าฆ้องพม่า ฆ้องที่นี่เป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศไทยและส่งขายทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ลาว พม่า กัมพูชา สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ เนเธอแลนด์ และรัสเซีย

 

ไหว้พระที่ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ สักการะสรีระหลวงปู่คำคนิง จุลมณี ชมฆ้องที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ออกเดินทางไปโขงเจียม และรับประทานอาหารเที่ยงที่นั่น

 

ไปชมแม่น้ำ 2 สีที่วัดโขงเจียม เป็นปรากฏการของแม่น้ำสองสายที่ไหลมาบรรจบกัน เกิดการเปรียบต่างสีน้ำของแม่น้ำ ทั้งสองสาย คือ แม่น้ำมูลที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหน้าน้ำหลากจะเห็นแม่น้ำทั้งสองสายที่ไหลมาบรรจบกันเป็นสองสีอยู่คนฝากฝั่ง อย่างชัดเจน ผู้คนพากันเรียกว่า “โขงสีปูน มูลสีคราม”

แวะร้านกาแฟ ความทรงจำ

 

เดินทางมาวัดภูพร้าว ชมพระอาทิตย์ตกดินที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ชมต้นไม้เรืองแสง วัดนี้มีจุดชมวิวเป็นวิวลำน้ำโขง และบริเวณด้านหลังพระอุโบสถเป็นจุดชม วิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวและมองเห็นด่านสากลช่องเม็กอย่างสวยงามรวมทั้งอ่างเก็บน้ำที่อยู่บริเวณเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาป โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินเราเราจะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงโตซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก และชมต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงในช่วงค่ำ

กลับที่พัก ณ อำเภอเมือง จ. อุบล หรือจะค้างคืนที่โขงเจียม ตามต้องการ

แวะทานอาหารเย็นที่โต้รุ่งสินราชบุตร หรือ ที่พิบูลมังสาหาร

4 ออกเดินทางกลับ

ช่วงเช้า แวะทานอาหารเช้า ที่ ปากหม้อร้านโรบอท หรือ ร้านสามชัยกาแฟ หรือ ก๋วยจั๊บโอชารส จากนั้นแวะซื้อของฝาก ก่อนส่งท่านที่สนามบินนานาชาติ อุบลราชธานี หรือสถานที่ตามท่านต้องการ ตามเวลากำหนด

(รายการนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)

ราคา

รถตู้พร้อมคนขับ 3.5 วัน ราคา 7,000 บาท (นั่งได้ 9 ท่าน) หากเดินทางเกินกว่า 3.5 วัน คิดเพิ่มวันละ 2,000 บาท

บริการไม่เกินวันละ 10 ชม. ต่อวันเพื่อความปลอดภัยของคณะ

ราคาไม่รวม

• น้ำมันเติมเองตามจริงเริ่มต้นทริปจากออฟฟิศอุบลราขธานี

• ราคาไม่รวมภาษีมูลเพิ่ม

• ราคาไม่รวมโรงแรมคนขับ

• ค่าโรงแรมจัดให้ตามงบประมาณของท่าน + ค่าบริการจอง 500 บาท

• หัวหน้าทัวร์วันละ 1,500 บาท

• ค่าอาหารจัดให้ตามงบประมาณของท่าน

• ค่าเข้าชมสถานที่จัดให้ตามงบประมาณของท่าน

การจองและจ่ายเงิน

หลังจากท่านจ่ายเงินผ่าน บัญชีธนาคารของบริษัท หรือ คลิกจ่ายเงินออนไลน์แล้ว กรุณาส่งชื่อบริษัท สำหรับออกใบแจ้งหนี้ และใบกำกับภาษีมาที่ เบญจมาศ เกียรติดำรง  (หมวย) โทร 081-566-2214 benjamas.seeyouagain@gmail.com  LINE http://line.me/ti/p/~muay_milk